ธุรกิจเวลเนส ขานรับก.การท่องเที่ยวฯ ผนึก สธ.วางเป้าดันไทยฮับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพภายใน 10 ปี ตั้งคณะกรรมการอำนวยการฯ คลอดแอกชันแพลน เดินแผนเร่งด่วน 2 ปี จัดทำระบบประกันสุขภาพสำหรับชาวต่างชาติ พัฒนาน้ำพุร้อนนำร่อง 7 จังหวัดขยายเวลาพำนักในไทย กรณีเข้ารักษาพยาบาลของกลุ่มCLMV และจีนเป็น 90 วัน จัดทำแพ็กเกจสุขภาพ และพัฒนาสถานบริการรองรับนักท่องเที่ยว
สมาคมโรงพยาบาลเอกชน ได้เข้าร่วมอยู่ในคณะกรรมการอำนวยการพัฒนาและส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและกระทรวงสาธารณสุข
เพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ภายใน 10 ปี (ปี 2559-2568) ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี และเอกชนต้องการผลักดันให้เกิดแอกชันแพลนเป็นสำคัญเพื่อให้เกิดการเดินเครื่องพัฒนาไปสู่เป้าหมาย เพราะนโยบายในเรื่องนี้มีมาตั้งแต่ปี 2547 แล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่ได้มีการบูรณาการทำงานร่วมกันแต่อย่างใด
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข วางเป้าหมายในการพัฒนาและส่งเสริมประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ภายใน 10 ปี (ปี 2559-2568)โดยมีการจัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการพัฒนาและส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ขึ้นมาขับเคลื่อนการทำงานร่วมกัน โดยได้วางกรอบยุทธศาสตร์ในการพัฒนาไว้ 4 ประเด็น คือ 1. เพิ่มขีดความสามารถในการจัดบริการสุขภาพ 2.พัฒนาบุคลากรทางการแพทย์เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการทุกระดับ 3.การพัฒนาวิสาหกิจชุมชน/ผู้ประกอบการรายย่อย รองรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และ 4.การส่งเสริมการตลาดและการประชาสัมพันธ์
“การดำเนินงานในระยะเร่งด่วน ภายใน 2 ปี คือปี 2559 – 2560 จะเร่งจัดทำระบบประกันสุขภาพสำหรับชาวต่างชาติ(Landed Fee) การพัฒนาแหล่งน้ำพุร้อนนำร่อง 7 จังหวัด ขยายเวลาพำนักในไทย กรณีเข้ารักษาพยาบาลกลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และจีน จาก 14-30 วัน เป็น 90 วัน จัดทำแพ็กเกจสุขภาพพัฒนาสถานบริการทั้งภาครัฐและเอกชนรองรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจบริการเชิงสุขภาพ”
ทั้งนี้การดำเนินงาน พัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จะเป็นการบูรณาการกับกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชน และเป็นไปตามที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อสภานิติบัญญัติ โดยนโยบายด้านสาธารณสุขอยู่ในนโยบายที่ 5 การยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุขและสุขภาพของประชาชนและอยู่ในคลัสเตอร์ที่ 4 ของนโยบายด้านการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศผลการดำเนินงาน ในปี 2557 มีชาวต่างชาติเข้ามารับบริการสุขภาพในประเทศไทย 1.2 ล้านครั้ง สร้างรายได้เข้าประเทศ 107,000 ล้านบาท ปัจจัยหลักที่ไทยได้รับการยอมรับคือ ราคาเหมาะสม บริการมีคุณภาพมาตรฐานสากล บุคลากรเชี่ยวชาญ เทคโนโลยีทันสมัย คนอัธยาศัยดี และมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม
ขอขอบคุณ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3098 วันที่ 22 – 24 ตุลาคม พ.ศ. 2558